ชนิดผ้าไหม
ผ้ายก
เป็นผ้าไหมที่ทอยกลายในตัว
โดยใช้เส้นพุ่งพิเศษเป็นดิ้นเงินดิ้นทอง
ทอกันแพร่หลายในภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูนและภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อของ “ไหมพุมเรียง”
ผ้ายกลำพูน
ผ้าไหมลายนี้มาจากจังหวัดลำพูนที่ทำขึ้นมาเพื่อให้พันรอบเอวเป็นผ้าถุงที่เรียกว่า
“นานาง” ซึ่งใช้สวมใส่ประเพณีในราชวงศ์สยามรูปแบบนี้มีใช้มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาในศตวรรษที่
14 ในระหว่างการทอผ้านี้จะใช้ทั้งไหม และทองมาทอร่วมกัน
ผ้ายกพุมเรียง
ใช้เป็นผ้าถุงจับจีบรอบเอวในยุคศตวรรษที่ 14
ที่เรียกว่า “นานาง” ผ้าไหมที่ทำขึ้นมาจากตำบลภูมิเรียง
จังหวัดสุราษฏร์ธานีทอด้วยไหมสีทองหรือเงิน เป็นสีพื้น
ซึ่งทำให้มองดูแล้วโดดเด่นมีความรู้สึกที่มีค่า
ลวดลายสลับซับซ้อนที่ทำขึ้นนั้นใช้สัดส่วนของเส้นไหมน้อยลง
ผ้ายกเมืองนคร
ผ้าไหมลายนี้มาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ทำขึ้นมาเพื่อให้พันรอบเอวเป็นผ้าถุงที่เรียกว่า
“นานาง” ซึ่งใช้สีทองทอเป็นลายดอกเป็นรูปแบบโบราณ
เทคนิคในการออกแบบขอบด้านล่างเป็นทรงกรวย และมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและปราณีต
ผ้าจก
เป็นผ้าที่ใช้วิธีการเก็บและทอเช่นเดียวกับผ้าขิด
แต่มีการทำลวดลายด้วยการเพิ่มเส้นพุ่งพิเศษเข้าไปเป็นช่วงๆไม่ติดต่อกันทำให้สามารสลับสีและลวดลายได้ต่างๆกัน
ลักษณะผ้าจึงมีสีสันและลวดลายมากกว่าผ้าที่มีการทำขิดแหล่งผลิตผ้าจกที่มีชื่อเสียง
ได้แก่ สุโขทัย เชียงใหม่ ราชบุรี อุตรดิตถ์ ผ้าที่มีการทำขิดหรือจกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
เช่น ผ้ากาบบัว ซึ่งเป็นผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี
ผ้าตีนจกลาวครั่ง
ผ้าซิ่นตีนจกลาวครั่งที่เห็นนางแบบสวมใส่อยู่นั้นมาจากคนลาวครั่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี ภาคกลางของประเทศ ซึ่งลักษณะของผ้าตีนจกลาวครั่งจะเต็มไปด้วยสีสันลวดลายทรงเรขาคณิตผ้าไหมตีนจกลาวครั่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเนื้อผ้าที่ใช้กรรมวิธีแบบจก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น